การแข่งขันฟุตบอลแบบปกติสากลทั่วไป นอกจากความพร้อมในต่างๆ ที่จะสนับสนุนให้การแข่งขันที่ดุเดือดและสนุกเร้าใจแล้ว สีสันข้างสนามจากกองเชียร์ก็เป็นที่พูดถึงบ่อยครั้ง จนในบางทีโดดเด่นเกินหน้ากว่าเกมในสนามเสียอีก หรือบางครั้งมีการนำอุปกรณ์เข้ามาเชียร์บ่อยๆ จนนานวันเข้าและการเป็นธรรมเนียมไปเลยก็มี
ฉะนั้นแล้วในวันนี้ เราจะมารวบรวมผ่านการจัดอันดับ 5 อุปกรณ์การเชียร์สุดฮิต ที่ทำให้โลกของฟุตบอลมีสีสัน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านั้นจะตรงใจกับที่คุณคิดหรือไม่ ไปติดตามและลุ้นพร้อมๆ กันด้านล่างนี้
1. ผ้าพันคอ
ผ้าพันคอ นับเป็นอุปกรณ์การเชียร์ชิ้นแรกที่ถือกำเนิดขึ้นในวงการฟุตบอล ซึ่งการถือกำเนิดของมันเกิดจากปัจจัยทางภูมิอากาศ ก่อนที่มันจะกลายเป็นสัญลักษณ์และอุปกรณ์การเชียร์ ที่ใครๆ ก็ต้องมีต่อจากเสื้อแข่ง
- หากใครไปย้อนเทปเก่าขาวดำของฟุตบอลอังกฤษ แฟนบอลเรือนหมื่นเมื่อร้อยกว่าปีจะใส่หมวกทุกคน ซึ่งเวลาแสดงอาการดีใจก็จะถอดหมวกมาโบก ส่วนในฤดูหนาวแฟนบอลจะนำผ้าพันคอมาผูกไว้ กระทั่งเมื่อทีมได้ประตูก็จะถอดออกมาแกว่งและชู จนพบว่าการพกผ้าพันคอมาเชียร์บอลมันสนุกเร้าใจกว่าตั้งเยอะ ทำให้แฟนบอลหลายทีมในอังกฤษ นิยมถักพันคอตามสีของสโมสร จนสุดท้ายสโมสรก็ทำผ้าพันคอโดยมีสัญลักษณ์ของทีมออกมาขาย
- วัฒนธรรมการเชียร์ฟุตบอลด้วยผ้าพันคอ เริ่มถูกส่งผ่านไปยังหลายประเทศ ผ่านเทปและการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ จนทำให้หลายชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกและยูโร ต่างนำผ้าพันคอเข้ามาเชียร์บ้านเกิดของตัวเอง
- วัฒนธรรมการเชียร์ฟุตบอลด้วยผ้าพันคอ ก็ถูกถ่ายทอดมายังเอเชียเหมือนกัน ซึ่งด้วยสภาพอากาศที่ร้อนกว่าทำให้วัสดุที่ใช้ต้องดัดแปลงไม่ให้หนามาก อีกทั้งผ้าพันคอถูกยังถูกนำมาใช้ในเชิงสัญลักษณ์การเชียร์มากว่าการเป็นเครื่องนุ่งห่มบรรเทาความหนาว ส่วนการใช้งานก็เช่น การนำผ้าพันคอมาชูและร้องเพลงให้นักฟุตบอลก่อนลงเตะ การแกว่งและการโยกระหว่างเกม และการชูผ้าผ้าพันคอพร้อมกับร้องเพลงให้นักเตะเป็นการปิดท้าย ซึ่งนี่ถือเป็นธรรมเนียมสำหรับฟุตบอลไทยและในย่านอาเซียน เลยทีเดียว
2. กลอง
นี่ถือเป็นอุปกรณ์การเชียร์อีกชิ้นที่ถูกนำมาใช้ในการเชียร์ฟุตบอล จนกลายเป็นของสากลไปแล้ว แต่ในบางที่ก็กลายเป็นของต้องห้าม เพราะมันสร้างความรำคาญและความอันตราย
- การนำกลองเข้ามาตีในสนามอาจบอกไม่ได้แน่ชัดว่าใครเป็นผู้นำมาตีเป็นชาติแรกๆ แต่สำหรับฟุตบอลอังกฤษนั้นก็มีเช่นกัน แต่เป็นเพียงเมื่อครั้งอดีต เพราะเมื่อนานมาแล้ว ฟุตบอลอังกฤษมีอันธพาลลูกหนังปะปนอยู่ในทีมต่างๆ มากมาย ทำให้ FA เล็งเห็นว่าไม้กลองคืออาวุธที่สามารถเอาไว้ทำร้ายกันได้ จึงต้องสั่งห้ามการนำกลองเข้าสนามและอนุญาตเพียงการแหกปากตะโกนเชียร์ทีมรักเท่านั้น เว้นเสียแต่ลีกล่างๆ ที่ยังพอมีกลองให้เห็น
- ในสเปน เยอรมัน ตุรกี เซอร์เบีย และชาติอื่นๆ ที่เชียร์บอลแบบมันๆ พร้อมกับกอดคอกระโดดขย่มอัฒจันทร์ตลอด 90 นาที จะมีการนำกลองมาใช้เป็นจังหวะสัญญาณ ซึ่งในสเปน ถึงขั้นมีการเก็บกลองของกลุ่มกองเชียร์พันธุ์แท้ เพื่อไว้เป็นอนุสรณ์และสมบัติของชาติ หรือการใช้กลองที่จังหวะคุ้นหู จนถูกนำไปลอกเลียนแบบ คือตอนทีมชาติไอซ์แลนด์มาแข่งยูโร 2016 ที่จะมีแกนนำใช้กลองตีแรงๆ 2 ครั้ง แล้วแฟนบอลร้องเฮพร้อมกับตบมือ (ตุ้มๆ เฮ ตุ้ม เฮ ตุ้มๆ เฮ เฮ ๆๆๆ)
- ส่วนในแถบเอเชียก็ไม่น้อยหน้า โดยในย่านอาเซียนจะเน้นการใช้กลองใบใหญ่ตีปลุกเร้าเป็นการอุ่นเครื่องตั้งแต่ต้นเกม ระหว่างเกม กระทั่งท้ายเกม ซึ่งฟุตบอลไทยลีกมีใช้ทุกทีม หรือกลุ่มอุลตร้ามาลายา ที่ติดตามไปเชียร์ทีมชาติมาเลเซียทุกนัด จะพกกลองนับ 20 ใบเป็นอย่างต่ำไปเชียร์ชาติของตน จนบางทีคู่แข่งต้องเอามือปิดหูในความ เสียงดัง ส่วนในแถบเอเชียตะวันออกอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น จะนิยมใช้กลองใบเล็กที่สามารถห้อยคอได้ ทำให้เสียงที่ตีออกมาจะทุ้มและไม่ดุดันมาก แต่สำหรับการแข่งขันทุกรายการของ AFC จะมีกฎห้ามตีกลองในระยะ 5 เมตร จากริมเส้นของสนามทั้ง 4 ด้าน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสมาธิของนักกีฬาจนเกินไป
3. แตรลม
อุปกรณ์การเชียร์ชิ้นนี้ไม่เป็นที่นิยมในสนามฟุตบอลของยุโรป แต่กลับได้รับความนิยมในทวีปอื่นๆ มากมาย เช่น อเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชีย
- ฟุตบอลในแถบอเมริกาใต้ จัดว่ามีความเถื่อนและไร้รูปแบบการเชียร์พอสมควร เพราะหากใครได้ดูฟุตบอลลีกประเทศอาร์เจนติน่า บราซิล หรืออื่น รวมถึงในทีมชาติ จะได้ยินเสียงกลอง เครื่องเป่าที่เล่นออกมาเป็นเพลง และมีแตรลมปะปนมาด้วย จนในบางครั้งก็ต้องแยกโซนประสาทให้ดีว่าจะฟังอันไหนก่อนดี
- ในแอฟริกาก็มีแตร์ลมเช่นกัน แถมยังเป็นดั่งสัญลักษณ์เสียด้วย ฉะนั้นถ้าใครยังจำวูวูเซล่าได้เท่ากับว่าคุณเริ่มแก่แล้ว (หยอกๆ 555) สำหรับเจ้าวูวูเซล่า เป็นเครื่องเป่าทรงยาว เมื่อเป่ามีเสียง “บวดๆๆๆ” แบบทุ้มๆ แต่ดังมาก ซึ่งแฟนบอลทั่วโลกได้รู้จักมันในฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ ภาพที่ปรากฏตอนถ่ายทอดสดจึงเหมือนกับผึ้งแตกรังตลอดเกม ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญจะมาบอกถึงความอันตราย เพราะมีความดังมาถึง 140 เดซิเบล กระทั่งถูกแบนและห้ามนำเข้าสนามในลีกใหญ่ของยุโรป
- ฟากของเอเชียก็ไม่น้อยหน้าอีกเช่นกัน แต่มักเป็นที่นิยมในแถบอาเซียนเท่านั้น เช่น ในลีกของไทย แต่ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมแล้ว มาเลเซียยังพอมีให้ได้ยิน ส่วนอินโดนีเซียยังจัดว่ากึกก้องเสมอยามมีเกมการแข่งขัน
4. ธงเล็ก
นี่นับเป็นอุปกรณ์การเชียร์อีกชิ้นที่มีความสำคัญ แต่อาจไม่เป็นที่นิยมมากนักในโลกลูกหนัง อีกทั้งยังนิยมนำมาโบกในวาระสำคัญมากกว่า
- แฟนบอลในอังกฤษ จะนิยมการซื้อธงผืนเล็กไปติดในส่วนต่างๆ ของบ้าน รวมถึงเอาไปติดหน้าบ้านเพื่อสื่อว่าบ้านนี้เชียร์ทีมอะไรกัน หรือเมื่อไรก็ตามที่มีคนเสียชีวิตในบ้าน ญาติๆ ก็จะนำธงที่มีตราสัญลักษณ์ของสโมสรไปห่มร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งสื่อถึงความคลั่งไคล้ที่ฝังในสายเลือด
- ส่วนการโบกในสนามก็พอมีให้เห็น แต่หลายครั้งสโมสรจะทำแจกเพื่อให้แฟนบอลเอาไว้โบกในบางนัด เช่น เลสเตอร์ และเชลซี ซึ่งการนำเล็กไปโบกในสนามจัดว่าไม่ค่อยเป็นที่นิยมสำหรับการทำเป็นประจำ เพราะมันไม่ใช่อุปกรณ์ที่สามารถพกติดตัวได้สะดวกเหมือนผ้าพันคอ
5. ธงใหญ่
อุปกรณ์การเชียร์ชิ้นนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นของใหม่สำหรับโลกฟุตบอล ที่พึ่งมีการใช้ในช่วง 20 ปีหลัง ซึ่งมีความสวยงามยามโบกสะบัด แต่ตลอด 90 นาที จะเห็นมันได้ไม่กี่ครั้งเท่านั้น
- การนำธงใหญ่เข้ามาใช้ในเกมฟุตบอล อาจกล่าวได้ว่า ญี่ปุ่น คือผู้นำชาติแรกๆ โดยจะโบกก่อนเกม กระทั่งเกมเริ่มก็จะเอาลง เมื่อไรที่ทีมของตัวเองยิงเข้าก็จะยกเข้ามา ทำให้ลีกในย่านอาเซียนอย่างลีกไทย นำธงใหญ่เข้ามาในสนามจนถึงบัดนี้
- ฟุตบอลลีกใหญ่ในยุโรปพอมีให้เห็นบ้าง แต่ในส่วนของลีกอังกฤษจะมีที่ชัดๆ 2 ทีม คือ เชลซี ด้านข้างตรงข้ามกับฝั่งตั้งกล้องถ่ายทอดสด ส่วนอาร์เซน่อล จะวางเอาไว้หลังประตูฝั่งขวา ของมุมกล้องถ่ายทอดสด ซึ่งสื่อว่าการนำธงใหญ่เข้ามาในสนามไม่ค่อยเป็นที่นิยมของฟุตบอลอังกฤษ
สำหรับการจัดอันดับ 5 อุปกรณ์การเชียร์ ที่ทำให้โลกลูกหนังมีสีสัน เชื่อว่าหลายอย่างท่านก็เคยเห็น หรือหลายท่านก็คงมีไว้ในครอบครอง ซึ่งเชื่อว่าการจัดอันดับในวันนี้จะตรงใจกับที่หลายๆ ท่านคิดไว้ และถ้ามีอุปกรณ์ชิ้นไหนไม่ได้อยู่ในโผครั้งนี้ ก็ฝากมาบอกในความฝันกันด้วยนะครับ